เห็ดขอน
เห็ดขอน มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Lentinus polychrous Lev. ทางภาคเหนือเรียก เห็ดลม ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเรียกว่า เห็ดบด เห็ดขอนดำ หรือ เห็ดกระด้าง ส่วนเห็ดขอนขาว(log white fungi)  มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Lentinus squarrosulus Mont.

ตามธรรมชาติเห็ดทั้ง 2 ชนิดมักพบขึ้นตามขอนไม้ที่ผุพัง หักโค่น และเป็นไม้เนื้อแข็งในป่าเขตร้อนชื้น เช่น ไม้เต็ง รัง เทียง ตะเคียน และไม้กระบาก และไม้มะม่วงแต่สีดอกเห็ดค่อนข้างดำ จึงเรียกแยกกันให้ชัดเจนว่าเห็ดขอนขาว และหรือ เห็ดขอนดำ ในภาคกลางพบขึ้นเองกับตอมะม่วงในฤดูฝน จึงเรียก เห็ดมะม่วง แต่เมื่อเข้าตลาดพ่อค้าเรียก เห็ดขอน เหมือนกันหมด แม้จะเป็นเห็ดในสกุลของเห็ดหอมตามการจำแนกของนักพฤกษศาสตร์ แต่ลักษณะรูปร่างหน้าตาเหมือนกับเห็ดนางรม เพียงแต่ดอกบางกว่า เหนียวกว่า และมีกลิ่นเห็ด (หรือ มัชรูมอโรน่า) หอมกว่า จึงเป็นที่นิยมบริโภคกันมากในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ พบในช่วงฤดูร้อนต่อฤดูฝนหรือฤดูฝนต่อฤดูหนาว ที่อุณหภูมิกลางวัน และกลางคืนต่างกันมากๆ เป็นเห็ดพื้นเมืองที่มีรสชาติดี  ให้คุณค่าทางอาหารสูง นิยมบริโภคในขณะที่ดอกยังอ่อน เพราะจะกรุบเหนียว ลื่นลิ้นให้ความรู้สึก ในการรับประทานคล้ายเนื้อสัตว์ เมื่อแก่จะเหนียวและแข็ง ให้รสชาติหวานเหนียวเล็กน้อย

เห็ดขอนมีสีขาวคล้ายเห็ดนางรม ดอกเห็ดกว้าง 2–10 เซนติเมตร ตรงกึ่งกลางของดอกเห็ดบุ๋มลงเล็กน้อย ดอกคล้ายรูปถ้วย รูปกรวยตื้น หรือจานก้นลึก ผิวหมวกเห็ดมีขนขึ้นปกคลุมเป็นกระจุก มองดูคล้ายเกล็ด ก้านดอกเหนียวและแข็ง ติดกับหมวกตรงกลางหรือด้านข้าง ส่วนมากจะไม่อยู่กึ่งกลางดอก แต่ค่อนไปข้างใดข้างหนึ่ง ก้านยาว 2–5 เซนติเมตร กว้าง 0.3–0.8 เซนติเมตร ครีบมีสีขาว หรือสีครีม กว้าง 1.5–2 เซนติเมตร ติดกับก้านดอก เนื้อบางเหนียวเมื่อยังอ่อน ดอกเห็ดเรียงชิดกัน เบสิเดียมรูปกระบองขนาด 17–22 x 3.5–5 ไมครอน พิมพ์ สปอร์สีขาว สปอร์ใส ผนังเรียบ รูปยาวรี ขนาด5–6.5 x 1.7–2.5 ไมครอน

การเพาะเห็ดขอนสามารถทำได้ทั้งการเพาะในขอนไม้แบบเห็ดหูหนู และการเพาะด้วยขี้เลื่อยในถุงพลาสติกแบบการเพาะเห็ดนางฟ้า นางรม

หากเพาะในขอนไม้ นิยมใช้ท่อนไม้สดเจาะรูขนาดครึ่งนิ้ว ลึกทะลุเปลือกไม้เข้าไปในเนื้อไม้ส่วนหนึ่ง ใส่เชื้อเห็ดปิดฝารูบ่ม นำไปวางในเรือนเพาะให้เส้นใยเจริญ 30 วัน คอยรดน้ำจนเห็ดขึ้น สามารถเก็บผลผลิตได้หลายรอบ
การเพาะเห็ดขอนในถุงพลาสติกนั้น ไม่ควรใช้โรงเรือนเดียวกับการเพาะเห็ดนางรม นางฟ้าที่ชอบอากาศเย็น เพราะเห็ดขอนสร้างดอกได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้น โรงเรือนต้องปิดมิดชิด แต่มีการถ่ายเทอากาศที่ดีจึงควรแยกโรงเรือนต่างหาก

โรงเรือนหรือสถานที่สาหรับบ่มเส้นใย อุณหภูมิควรอยู่ที่ประมาณ 28-32 องศาเซลเซียส เพื่อให้เส้นใยเจริญ ประมาณ 20-30 วัน เมื่อเส้นใยเห็ดเกินเต็มที่แล้ว เปิดจุกสาลีออกจากปากถุงทิ้งไว้ 1 วัน และในวันรุ่งขึ้นนำคอพลาสติกออก ทิ้งไว้อีก 1 วัน ในวันที่ 3 จึงใช้มีดตัดปากถุงรดน้ำวันละ 2 ครั้ง เพื่อรักษาความชื้น ในช่วงเช้าและบ่าย ที่ก้อนเชื้อและบริเวณโรงเรือนเพื่อรักษาความชื้นภายในโรงเรือนให้ได้ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ ประมาณ 3-5 วัน ก็สามารถเก็บเห็ดมารับประทานหรือจำหน่ายได้

โรงเรือนเปิดดอกเห็ดลมและเห็ดขอนขาว ควรให้มีแสงผ่านเข้าภายในโรงเรือนได้ประมาณ 60-70% ให้ความชื้นโดยการให้น้ำในโรงเรือนและบริเวณก้อนเชื้อ ให้มีความชื้นสัมพัทธ์ 70-80% ปรับโรงเรือนให้มีสภาพร้อนชื้น อุณหภูมิประมาณ 33-36 องศาเซลเซียส ประมาณ 2-3 วัน ดอกเห็ดจะเริ่มงอก จากนั้นปรับอุณหภูมิในโรงเรือนให้ลดลงมีอากาศถ่ายเทได้ดี ความชื้นสัมพันธ์ 60-70% มีแสงสว่างปานกลางเพื่อให้ดอกเห็ดเจริญเติบโตต่อไป ในระหว่างให้ผลผลิตแต่ละครั้งเส้นใยเห็ดลมจะพักตัวประมาณ 15-20 วัน สามารถเก็บผลผลิตได้ประมาณ 5 รุ่น ภายในเวลา 3 เดือน
การเก็บเกี่ยวผลผลิตควรเก็บในช่วงที่ดอกยังตูมอยู่โดยใช้มีดคมๆ ตัด เก็บได้วันละ 2 เวลา คือ ช่วงเช้าและบ่าย หลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตรุ่นแรกแล้วให้เก็บก้อนเชื้อไว้ในสภาพที่แห้ง จนกว่าจะต้องการให้เกิดดอกครั้งต่อไป

ศัตรูสำคัญของเห็ดขอนคือไรไข่ปลา และราเขียวเหมือนในเห็ดหูหนู การป้องกันกำจัดจะใช้น้ำหมักสมุนไพร เช่น ใบน้อยหน่า หัวข่าแก่่ ตะไคร้หอม ฉีดพ่น สามารถควบคุมศัตรูพืชได้ และทำให้ลดต้นทุนการใช้สารเคมีลงและมความปลอดภัยต่อผู้บริโภค

เห็ดขอนมีสรรพคุณเป็นยาบำรุงร่างกาย บำรุงกำลัง แก้ไขพิษ ช่วยระบบขับถ่ายทางานดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยเกี่ยวกับเห็ดขอนขาวคือ การต้านปฏิกิริยาออกซิเดชันจากสารอนุมูลอิสระ ซึ่งได้จากสารสกัดหยาบของส่วนเซลล์ของเห็ดขอนขาว (Lentinus squarrosulus) ด้วย ethyl acetate สำหรับเห็ดกระด้างสดหรือแบบแห้ง สามารถนำมาต้มกับน้ำจนเดือดให้ผู้ที่มีร่างกายอ่อนเพลียจากการทำงานหรือไม่แข็งแรงเนื่องจากเพิ่งฟื้นจากไข้ สมรรถภาพทางเพศไม่ค่อยจะดี รับประทานทั้งน้ำและเนื้อเห็ดเป็นประจำจะทำให้ร่างกายแข็งแรง จากงานวิจัย พบว่าแคปซูล”  จากสารสะกัดเห็ดกระด้าง   สามารถลดไขมันในเลือดของผู้ป่วยเบาหวาน และผู้ติดเชื้อ HIV ได้ผลดี จะทำให้ผู้ป่วยมีอายุยืนยาวต่อไปได้อีก  สำหรับราคาของเห็ดกระด้างค่อนข้างสูงกว่าเห็ดพื้นเมืองชนิดอื่นๆ  จึงได้รับการพัฒนาเพื่อการเพาะปลูกเป็นการค้า
คุณค่าทางอาหาร : เห็ดขอนขาว 100 กรัม ให้พลังงาน 44 กิโลแคลอรี่ น้า 87.9 กรัม  โปรตีน 3.3 กรัม  เส้นใย 3.2 กรัม  ฟอสฟอรัส 163 มิลลิกรัม 
Article Credit : กรมวิชาการเกษตร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น